- Server คือ เครื่องที่ทำหน้าที่ในการให้บริการแก่ Clent
- Client คือ เครื่องที่ไปขอใช้บริการอย่างใดอย่างหนึ่งจาก Server
- เป็นระบบที่ทำงานในรูปแบบของความสัมพันธ์ของ Process ที่อยู่บนต่างเครื่องกัน
- มีขอบข่ายการทำงานที่แบ่งแยกกันอย่างชัดเจน คือ process ที่ใช้เป้นตัวให้บริการอยู่ในเครื่องหนึ่ง ในคณะที่ Client Process เป็นตัวใช้บริการจะอยู่อีกเครื่องหนึ่ง
Type Of Client Server
มองตามลักษณะการทำงานและลักษณะการประยุกต์ใช้ได้ดังนี้
- File Server
- Database Server
- Transaction Server
- Groupware Server
- Object Server
- Web Application Server
File Server
- First wave Client/Server
- Client ขอใช้บริการข้อมูลที่ Server คือ File ที่อาจเป็น Program หรือ Data
- เมื่อ Client ส่งสัญญาณ Request แล้ว Server จะ Copy ส่ง File ที่ขอให้
- Process ส่วนใหญ่เกิดขึ้นท่ Client เป้นหลัก Server มีหน้าที่แค่บริการ File
- เป็น Model ที่ง่ายและราคาถูก ตัวอย่างเช่น PC LAN โดย Netware Netware ไม่ได้มีหน้าที่ run program เป็นเพียงผู้ที่เก็บ program และแจกจ่ายให้ user แต่ละคนนำไปใช้ ระบบจะ Protect ไม่ให้สูญหาย และจะดูแลว่าข้อมูลใดเป้นของใคร สิทธิการเข้าใช้งานเป็นอย่างไร
- Print Server หรือ Fax Server เป้นกลุ่มที่ทำงานแบบ File Server เช่นกัน เพราะเป็นการส่งผ่านข้อมูลลักษณะ File เช่นเดียวกัน - Program File
- Server search file เดียว : เพียง program เดียวก็ทำงานได้ อันเป็นลักษณะของ Dos
- Server search file เป็นกลุ่ม : ต้องได้ไฟล์ทั้งระบบจึงจะทำงานได้ ซึ่งเป็นระบบการทำงานของ Windows - Data File
- End User Data คือ data ที่ user สร้างเอง และเก็บไว้ใช้งานเอง
- Database Data คือ data ที่ share ให้ user หลายคนเรียกใช้งานได้ ลักษณะการใช้งานจะเป็นฐานข้อมูลแบบ ISAM ซึ่งต้องสร้าง Index Files ขึ้นมาเพื่อให้ง่ายในการสืบค้นและเพื่อเรียงลำดับข้อมูล และการเข้าใช้งานในแต่ละครั้งต้องทำการ Lock ไว้จนกว่าจะใช้งานเสร็จ
Database Server
- Second wave Client/Server
- เหมาะกับ Relational Database Model แต่ไม่เหมาะกับ VSAM หรือ ISAM Model
- Client จะเรียกโดยการส่ง SQL request message ไปยัง Server จากนั้น DBMS จะทำการประมวลผลคำสั่ง ค้นหรือประมวลผลข้อมูลใน Database แล้วส่งผลลัพธ์กลับไปยัง Client - มีปริมาณ Traffic น้อยมากใน Network เพราะเป็นการส่งผ่านแค่คำสั่งกับผลลัพทธ์ถึงกันเท่านั้น
- ภาระทั้งหมดตกอยู่ที่ Server เนื่อจากต้องรองรับงานจากทุก client บางช่วงเวลาที่มีการส่ง command จาก client หนักๆจะทำให้ Server ไม่สามารถประมวลผลได้ทัน ทำให้ระบบ Crash
- ในระดับ Centralized Host SQL Command ก็จะถูกสร้างขึ้นที่ Server ซึ่งจะต่างจากใน PC Client ที่จะส่งมาเป็น Command เนื่อจาก Client เป็น Terminal ที่ไม่มี CPU และ Memory ทุกตัวอักษรที่กดจะถูกส่งไปที่ Host ทั้งหมด และจะเริ่มประมวลผลทันทีที่ Submit คำสั่ง
- การตอบสนองจะเป็นไปในลักษณะ Interactive แต่ไม่สามารถคาดหมายเวลาในการตอบสนองได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับช่วงเวลานั้นว่า
Transaction Server
- สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา Crash ของ Server ในช่วงเวลา Busy หนักๆ
- แบ่งกลุ่ม Transaction Server เป็นสองกลุ่มคือ
- TP Moniter (TP-Heavy) เหมาะสำหรับงานที่มีปริมาณ Transaction มากๆ
- Store Procedure (TP-Lite) เหมาะสำหรับงานที่มีปริมาณ Transaction ไม่มาก
- ลักษณะงานของ Transaction Server คือ รองรับ Transaction ทั้งหมดจาก User แล้วส่งไป Process ที่ Server ในอัตราสูงสุดไม่เกินปริมาณนี่ Server สามารถจะรับได้ในแต่ละช่วงเวลา